Senior Recital Concert "Four Seasons"
CONCEPT
คอนเสิร์ตในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวของความรัก การสูญเสีย การมอบให้ และเรื่องราวอันอบอุ่นในรูปแบบของ 4 ฤดูกาล ซึ่งในแต่ละฤดูกาลนั้น จะประกอบไปด้วย ฤดูกาลแห่งการมอบให้ ฤดูกาลแห่งมรสุม ฤดูกาลแห่งการเพ้อฝัน และฤดูกาลแห่งความอบอุ่น ในแต่ละฤดูกาลนั้น เป็นสิ่งที่มนุษย์เราต้องพบเจอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะวนเวียนกลับมาหาเราเสมอ
ฤดูกาลแห่งการมอบให้
เป็นเหมือนกับช่วงเวลาที่เรารู้สึกอยากจะมอบสิ่งที่ดีให้กับผู้อื่น มีทั้งความรักที่เรามอบกับคนที่เรารัก ครอบครัว หรือสัตว์เลี้ยงของเรา การมอบให้เป็นสิ่งที่สวยงามเป็นการมอบสิ่งที่ดี ๆ ให้กับผู้อื่น เป็นการมอบกำลังใจ มอบความรัก หรือแม้แต่การสอน การสั่งสอนนั้นอาจจะทำให้ผู้ที่รับฟังนั้นได้เข้ามาอยู่ในที่ที่ถูกทาง ช่วยเขาให้ดีขึ้นได้จากปัญหาที่พบเจอ ซึ่งตัวของผมเองเปรียบฤดูนี้เหมือนกับเพลง Lippen Schweigen ประพันธ์โดย Franz - Lehár เเละบทเพลง Dunkelrote Rosen ประพันธ์โดย Carl Millöcker ซึ่งสองบทเพลงนี้ให้อารมณ์ ความรู้สึก เเละความหมายของเพลงในเรื่องของการมอบความรัก และความสุขให้กับผู้คนเป็นการส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ผ่านทางบทเพลงร้องให้ผู้ชมและผู้ฟังได้รับความสุขผ่านทางบทเพลง
ฤดูกาลแห่งมรสุม
เป็นเหมือนช่วงชีวิตของคนเราที่จะต้องเจออุปสรรค และเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เข้ามาในชีวิต เป็นเรื่องที่ดี เเละเรื่องที่ไม่ดี ฤดูนี้จะเป็นบทเรียนให้เรารู้จักชีวิตมากขึ้น เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราสับสน และเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้คิดไตร่ตรองมากขึ้น ผมคิดว่าหลาย ๆ คนอาจจะไม่ชอบฤดูนี้แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าเราไม่มีฤดูนี้เกิดขึ้นมาเราก็จะไม่รู้จักที่จะเรียนรู้ ที่จะผิดพลาด ที่เราจะได้คิดไตร่ตรอง ผมเปรียบฤดูนี้เหมือนบทเพลง Gretchen am Spinnrade ประพันธ์โดย Franz Schubert เเละบทเพลง Empty Chairs At Empty Tables ประพันธ์โดย Claude-Michel Schönberg ซึ่ง 2 บทเพลงนี้จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราว และอุปสรรคที่ต้องพบเจอ ความสับสน ความเสียใจ และการสูญเสีย
ฤดูกาลแห่งการเพ้อฝัน
ฤดูนี้เปรียบเสมือนกับช่วงชีวิตของคนเราที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน ฝันถึงสิ่งที่อยากได้แล้วอยากพบเจอ เป็นเหมือนกับการที่เราได้ปล่อยความคิดในสิ่งต่าง ๆ เเละการเพ้อฝันนั้น ทำให้เราได้อยู่ท่ามกลางสิ่งสวยงามที่เราอยากจะเจอภายในความฝัน แต่ว่าการเพ้อฝันยังเป็นเหมือนการช่วยเติมเต็มทั้งกำลังใจในการทำสิ่งที่เรารัก กำลังใจในการสู้เวลาเราเจอเรื่องร้าย ช่วงเวลาที่เราปล่อยให้เราเพ้อฝันออกมาเป็นเหมือนการลบล้างสิ่งที่เลวร้ายที่เราเคยเจอมันออกมา และเมื่อมันหายไปแล้วเราก็สามารถพร้อมที่จะสู้กับปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาได้ ผมจึงเปรียบฤดูนี้เหมือนกับบทเพลง Soir- Païen ประพันธ์โดย Georges Hüe เเละบทเพลง Gern hab ich die Frau'n geküsst wunderlich ประพันธ์โดย Franz Lehár ซึ่งสองบทเพลงนี้จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของการเพ้อฝัน ในสิ่งต่างๆ ที่ตนนั้นอยากที่จะพบเจอ ทั้งเรื่องความรัก เเละสิ่งสวยงาม
ฤดูกาลแห่งความอบอุ่น
เป็นช่วงเวลาที่เราจะมอบความรัก การให้อภัย ช่วงเวลาแห่งการให้ และแบ่งปัน เป็นช่วงเวลาที่เราได้อยู่ท่ามกลางคนที่เรารัก อาจจะเป็นครอบครัวคนที่เรารัก หรือสัตว์เลี้ยงที่จะมอบความอบอุ่นให้แก่กัน เป็นฤดูแห่งความปิติยินดี เฉลิมฉลอง และอวยพรแก่กัน ความอบอุ่นนั้นเป็นสิ่งที่เราได้รับจากคนที่รักเรา และเราสามารถสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับผู้อื่นต่อได้ เปรียบเสมือนกับบทเพลง Tanzen möcht ich ประพันธ์โดย Emmerich - Kàlmàn เเละบทเพลง Im Abendrot ประพันธ์โดย Richard Strauss ซึ่งเป็นการบอกเล่าของเรื่องราวแห่งความปิติยินดี การยอมรับ เเละการมอบความอบอุ่นให้แก่กันและกัน
Programme
C. Millöcker
Dunkelrote Rosen "Gasparone"
F. Lehar
Lippen schweigen "Die lustige Witwe"
F. Schubert
Gretchen am Spinnrade
C. M .Schönberg
Empty Chairs at Empty Tables "Les Misérables"
G. Hüe
Soir païen
F. Lehár
Gern hab’ ich die Frau’n geküsst "Paganini"
E. Kálmán
Tanzen möcht' ich "Csárdásfürstin"
R.Strauss
Vier letzte Lieder No. 4 "Im Abendrot"
Performers
Panupop Jakklom, Tenor
Vorakit Kamolraksa, Tenor
Rossakorn Phuengthongthai, Soprano
Suchunya Tanvichien, Soprano
Pishayatan sungvornvetchapharn, Soprano
Arthitiya Sitthidech, Soprano
Morakot Cherdchoo-ngarm, Piano
Chatkul Wisutthisara, Flute
Petpairin Luenpaen, Violin
Khongchai Greesuradej, Violin I
Wadtawan Ketbunthorn, Violin II
Thanaporn Rachasingho, Viola
Pulish Likhitwatanasad, Cello